วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

‘ผลไม้’ เป็นยิ่งกว่า ‘ผลไม้’

ผลไม้เป็นยิ่งกว่า ผลไม้

ปัจจุบันการวิจัยพืชผักผลไม้ในเมืองไทยเรามีการทำกันอย่างจริงจัง มีการต่อยอดงานวิจัยเดิมสู่งานวิจัยใหม่อย่างหลากหลายกลายเป็นผลิตภัณฑ์สร้างงานสร้างอาชีพได้มากมาย ซึ่งสำหรับ“ผลไม้”นั้นกับ“มังคุด” กับงานวิจัยใหม่ๆ ก็ยิ่งทำให้ทราบว่านี่มิใช่เพียงผลไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งผลไม้” เท่านั้น
ล่าสุดมีข่าวว่าทีมวิจัยซึ่งประกอบด้วย... รศ.ดร.วิลาวัลย์ มหาบุษราคัม ภญ.รศ.ดร.เสาวลักษณ์ พงษ์ไพจิตร คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ภญ.รศ.ดร.อำไพ ปั้นทอง, รศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ, ผศ.ดร.ศิริวรรณ วงศ์ไชย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา นักวิจัยหนึ่งในผู้ก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย ได้ทำวิจัยต่อยอดเชิงประยุกต์ผลการวิจัยสรรพคุณของผลไม้ รวมถึงมังคุดและธัญพืชหลายชนิดภายใต้ ปฏิบัติการสร้างภูมิคุ้มกันสมดุล “OPERATION BIM”
BIM คือบาลานซิ่ง อิมมูน (Balancing Immune) โดยมีการวิจัยสรรพคุณของผลไม้มังคุดและธัญพืชต่างๆ แล้วนำมาผสมกันเพื่อให้เกิดการเสริมประสิทธิภาพ จนได้สารอาหารที่ปลอดภัยและไร้ผลข้างเคียง คณะนักวิจัยได้ใช้ศาสตร์ของการเสริมฤทธิ์นำสารธรรมชาติจากผลไม้และธัญพืชหลากชนิดผสมกับสารสกัด GM-1 สารที่มีอยู่ในผลมังคุด จนค้นพบสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ที่ช่วยปรับภูมิคุ้มกันร่างกายให้สมดุลได้

ที่ทราบมาคือได้มีการพัฒนางานวิจัยนี้สู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพในรูปของแคปซูลสารสกัด อีกทั้งคณะนักวิจัยยังได้ใช้ความรู้จากปริมาณสารสกัดที่มีอยู่ในแคปซูลเป็นหลักในการผลิตน้ำมังคุดสกัดเข้มข้นที่ไม่มีการเติมสีสังเคราะห์ ไม่ใส่น้ำตาล ไม่มีสารกันบูด ไม่แต่งกลิ่นด้วยสารเคมี ไม่มีส่วนเปลือกมังคุดซึ่งอาจปนเปื้อนยาฆ่าแมลง และไม่มีแทนนินสีน้ำตาลจากเปลือกมังคุดในปริมาณมากจนเกิดผลข้างเคียง ซึ่งก็สามารถช่วยปรับระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สมดุลได้เช่นเดียวกับสารสกัดสูตรที่ได้จากปฏิบัติการ BIM
การที่ร่างกายปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุลอยู่ตลอดเวลานั้น เมื่อภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับที่ไม่น้อยเกินไปก็ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือได้รับผลกระทบจากสิ่งแปลกปลอมง่ายๆ และเมื่อภูมิคุ้มกันไม่อยู่ในระดับที่มากเกินไป ร่างกายก็จะไม่เกิดอาการผิดปกติหรือเกิดการแพ้ภูมิตัวเอง ซึ่งโดยสรุปแล้วการที่ร่างกายปรับระดับภูมิคุ้มกันได้สมดุลก็จะช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้ ดังนั้นงานวิจัยดังกล่าวนี้จึงน่าสนใจทีเดียว

ทั้งนี้ข่าวคราวงานวิจัยลักษณะนี้ในด้านหนึ่งถือเป็นชื่อเสียงความสำเร็จของนักวิจัยไทย-ประเทศไทยกับวิทยาการเชิงสุขภาพซึ่งจะมีการต่อยอดไปอย่างไรก็ว่ากันไป แต่ในอีกด้านหนึ่งเมื่อมีข่าวปรากฏออกมา นี่ก็จะช่วยส่งเสริมให้สิ่งที่ถูกวิจัยซึ่งในที่นี้คือ “ผลไม้” คือ “มังคุด” มีความโดดเด่นมากขึ้น และหากใครจับกระแส-จับจุดนี้ไปปรับใช้ในเชิงอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่มีการวิจัยได้ ก็ย่อมจะเป็นประโยชน์เป็นผลดีต่อเนื่อง...จาก ผลไม้ที่ปัจจุบันเป็นยิ่งกว่า ผลไม้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับที่ 21,591 วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น