ผลงานวิจัย





    ปฏิบัติการเพื่อภูมิคุ้มกันที่สมดุล หรือ Operation ?BIM? (Balancing Immune) ผลงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ไทยได้ปรากฏสู่สายตาู่ชาวโลกเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2551 ในการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 34 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ การค้นพบครั้งนี้จะสามารถช่วยปรับความสมดุลสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี และป้องกันสารแปลกปลอมจากภายนอกที่เข้ามาทำลายสุขภาพ เช่น สารเคมีอันตราย เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ตลอดจนเซลล์มะเร็ง ที่ก่อให้เกิดโรคร้ายสารพัด
องค์การมหาชนและบริษัทมหาชนประสานนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ระดับโลกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐเหนือจรดใต้ร่วมปฏิบัติการ ?BIM? (OPERATION ?BIM?) เพื่อสุขภาพที่ดีถ้วนหน้าของประชากรโลก ส่งผลให้เกิดอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนที่ใช้ผลไม้และธัญพืชในประเทศไทยเป็นวัตถุ ดิบ และเกิดมาตรการที่สามารถยกระดับราคาของผลผลิตทางธรรมชาติเหล่านี้อย่างถาวร ต่อเนื่อง

OPERATION ?BIM? (Balancing Immune) 
จะ ส่งผลให้ประชากรโลกสามารถมีอายุยืนขึ้น มีความสุขมากขึ้น มีสุขภาพดียิ่งขึ้น เพราะร่างกายสามารถป้องกันเชื้อโรคและสารแปลกปลอมจากภายนอกที่ทำลายสุขภาพ และก่อให้เกิดโรคร้าย เช่น สารเคมีอันตราย เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ตลอดจนเซลล์มะเร็ง และร่างกายสามารถลดอาการผิดปกติซึ่งเกิดขึ้นจากสภาวะแพ้ภูมิตัวเองที่ส่งผล ให้เกิดปัญหาทางผิวหนัง สะเก็ดเงิน กระเพาะลำไส้อักเสบ ข้อเข่าเสื่อม เบาหวาน อาการแพ้ หัวใจ ตับและไตทำงานผิดปกติ หอบหืด สันนิบาต อาการชัก เป็นต้น

auto-immune disease
ตำแหน่งของโรคที่เกิดจากการแพ้ภูมิตัวเอง
ความสามารถของร่างกายในการป้องกันและ/หรือลด อาการผิดปกติในร่างกายซึ่งบั่นทอนสุขภาพนี้ เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายสามารถปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุลอยู่ตลอดเวลา ไม่อยู่ในระดับน้อยเกินไปจนติดเชื้อและถูกกระทบโดยสิ่งแปลกปลอมได้ง่าย และไม่อยู่ระดับมากเกินไปจนเกิดอาการผิดปกติ หรือโรคที่เกิดจากการแพ้ภูมิตัวเอง (Auto-immune diseases) หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เกิดภาวะภูมิบำบัด (Auto-immunotherapy) ที่ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันสมดุล (Immune Balance หรือ Immunomodulation) ขึ้นในร่างกาย

ภูมิบำบัดที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลจากการกระตุ้นการหลั่ง Interleukin-2 (อินเทอร์ลูคิน-ทู) ซึ่งเป็นชีวโมเลกุลที่เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มากขึ้นได้อย่าง มหัศจรรย์ แต่ไม่มากเกินไปจนเกิดผลข้างเคียง และเป็นผลจากการลดการหลั่ง Interleukin-1 (อินเทอร์ลูคิน-วัน) ซึ่งเป็นชีวโมเลกุลที่ทำให้เกิดการแพ้ภูมิตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง แต่ไม่ลดน้อยจนเกิดสภาวะไม่สมดุล
interlukin2
ภาพ Interleukin-2
ความสามารถของร่างกายในการเพิ่ม Interleukin-2 และลด Interleukin-1 นี้เกิดขึ้นได้จากการรับประทานผลิตภัณฑ์ธรรมชาติสูตรพิเศษ BIM ซึ่ง ได้จากการผสมสารธรรมชาติสุดยอดสรรพคุณจากผลไม้และธัญพืชหลากชนิดเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดการเสริมประสิทธิภาพ (Synergistic) โดยใช้ประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับสารธรรมชาติสุดยอดสรรพคุณเหล่านี้ ที่นักวิจัยสหวิชาการได้สะสมมาตลอดระยะเวลา 31 ปี ผนวกกับความรู้ปัจจุบันทันสมัยของชีวโมเลกุลที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ใน วันนี้
โดยการใช้ผลิตภัณฑ์จาก Operation ?BIM? เราสามารถเพิ่ม Interleukin-2 ในร่างกายได้เองในปริมาณที่ไม่มากเกินไปจนเกิดผลข้างเคียง แล้วยังสามารถลดความผิดปกติที่เกิดจากการแพ้ภูมิตัวเองได้อีกด้วย
สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้อนุญาตให้ ใช้ Interleukin-2 เป็นยาฉีดเข้าเส้นเลือดและเข้าใต้ผิวหนังเพื่อรักษามะเร็งขั้นสุดท้าย บริษัทยาบริษัทหนึ่งมีรายได้จากการจำหน่ายยานี้กว่า 124 ล้านเหรียญในปี 2005 การรักษาด้วยยานี้ได้ผลดี แต่มีผลข้างเคียงร่วมด้วย
การรวมพลังทางสติปัญญา ความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์วิจัยของนักวิทยาศาสตร์การแพทย์จากหลากหลายสาขาวิชาการเพื่อ ให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายเดียวกัน ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนงบประมาณจากองค์การมหาชนสำนักงานพัฒนาการวิจัย การเกษตร และบริษัทมหาชน Asian Phytoceuticals Public Co., Ltd. จึงทำให้เกิด OPERATION ?BIM? อันเป็นกระบวนการรวมพลังครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์ไทย
นักวิทยาศาสตร์ที่มีส่วนร่วมทำให้เกิด OPERATION ?BIM? มีมากกว่า 25 คน และที่มีบทบาทสำคัญ คือ
1. รศ.ดร.วิลาวัลย์ มหาบุษราคัม (นักวิจัยเคมีอินทรีย์) และ ภ.ญ.รศ.ดร. เสาวลักษณ์ พงษ์ไพจิตร (เภสัชกรและนักวิจัยจุลชีววิทยา) ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้ทำงานการสอนและการวิจัยในคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มากว่า 20 ปีแล้ว ยังเป็นนักวิจัยชั้นนำของสถานวิจัยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในมหาวิทยาลัยเดียวกัน อีกด้วย

2. ภ.ญ.รศ.ดร.อำไพ ปั้นทอง ( นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชวิทยา และพิษวิทยาของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ) ผู้เชี่ยวชาญของ UNESCO ทางด้านการศึกษาฤทธิ์การต้านการอักเสบของสารสกัดจากสมุนไพรในเอเชีย และทำการสอนและการวิจัยในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มากกว่า 35 ปี

3. รศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ (นักวิจัยชีวเคมี) ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศในการวิจัยวิศวกรรมเนื้อเยื่อ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ได้รับรางวัลวิจัยยอดเยี่ยมจากสำนักงานสนับสนุนการวิจัย ได้รับรางวัล Cerebos Award ในปี 2006 และเป็นผู้ทำการสอนการวิจัยในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มากว่า 20 ปี

4. ผศ.ดร.ศิริวรรณ องค์ไชย (นักวิจัยชีวเคมี) นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านผลของสมุนไพรต่อกระดูกอ่อนของศูนย์ความเป็นเลิศใน การวิจัยวิศวกรรมเนื้อเยื่อ ทำการสอนและการวิจัยในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มากว่า 15 ปี

5. ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา (นักวิจัยเคมีอินทรีย์และฤทธิ์ชีวภาพของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ) นักวิจัยผู้ศึกษาสารสกัดและฤทธิ์ทางชีวภาพของพืชสมุนไพรกว่า 200 ชนิด เป็นนักวิจัยรับเชิญของสถาบันวิจัยมะเร็งในประเทศเยอรมัน ทำการสอนและการวิจัยในคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่รวมเวลา 26 ปี ก่อนหันทิศทางชีวิตออกจากมหาวิทยาลัยจัดตั้งบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจ เกี่ยวกับการวิจัยพัฒนาและพาณิชย์ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการ และ CEO ของ Asian Phytoceuticals Public Co., Ltd.
จุดเริ่มต้นของ OPERATION ?BIM? เกิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971 เมื่อคณะนักวิจัยในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับคำแนะนำจากนักการภารโรง (นายเขียว พัฒจรินทร์) ว่าเปลือกมังคุดฝนกับน้ำปูนใสสามารถใช้ทาแผลทำให้แผลแห้งและหายอย่างรวดเร็ว คณะนักวิจัยจึงเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการแยกสารที่ออกฤทธิ์จากเปลือก มังคุด ซึ่งหากเป็นประโยชน์ก็จะเป็นวิธีการกำจัดขยะจากเปลือกมังคุด ด้วยเหตุนี้การวิจัยเกี่ยวกับมังคุดตามหลักวิทยาศาสตร์สากลในลักษณะของความ ร่วมมือของนักวิจัยสหสาขาวิชาการ จึงเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 8 ปี
garcinia
     ก่อนจะสรุปได้ว่า สารจากมังคุดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือสาร GM-1 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งการเจริญ และฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและระงับปวดในสัตว์ทดลอง โดยมีความแรงของฤทธิ์เป็น 3 เท่าของแอสไพริน ลดอาการแพ้และแก้ปวดในหนูทดลอง ต้านอนุมูลอิสระได้ดี สมานผิวได้อย่างรวดเร็ว และฆ่าเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองได้ และจากการทดสอบความปลอดภัยพบว่า สาร GM-1 เป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงและปลอดภัยกว่าสารธรรมชาติที่ให้รสเปรี้ยว (citric acid) ในมะนาวและส้มถึง 5 เท่า
จากข้อจำกัดทางด้านเงินทุนและกฏเกณฑ์ที่ถูกกำหนดขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้วที่ใช้ใน World Health Organization ทำให้การพัฒนา GM-1ไปใช้เป็นองค์ประกอบของยาแผนปัจจุบันเป็นไปได้น้อยมาก คณะวิจัยจึงได้แต่เพียงนำ GM-1 เสริมกับสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางสำหรับผู้มีปัญหาสภาพผิวเรื้อรังจากสิวและอาการแพ้ จาก การร่วมวิจัยพัฒนาและทดสอบกับบริษัท Henkel KGa ของประเทศเยอรมัน จึงได้มีการผลิตสบู่ เจลล้างหน้า ครีมบำรุง ครีมกันแดด ครีมอาบน้ำ ครีมสิวที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญคือ สารสกัดจากเปลือกมังคุด GM-1 ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกของโลก โดยไม่มีส่วนผสมของ Tannin ในเปลือกมังคุด อันอาจทำให้ผิวคล้ำได้อยู่ด้วย

ภาพบรรยากาศการเปิดตัว
"Operation BIMปฏิบัติการเพื่อภูมิคุ้มกันที่สมดุล
การประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วทท) ครั้งที่ 34
วันที่ 31 ตุลาคม 2551
ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


ผลงานวิจัยของคณะนักวิจัยไทยได้รับการเผยแพร่ทั้งในสื่อ ภายในประเทศและพิมพ์เผยแพร่ในวารสารทางวิชาการทั่วโลก ก่อให้เกิดการวิจัยตามมาจากนักวิจัยหลายคณะซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักวิจัยไทย ในค.ศ. 2003 บริษัทอเมริกันบริษัทหนึ่งได้นำผลงานวิจัยเหล่านี้ไปใช้ในการระบุ ประสิทธิภาพของน้ำมังคุดที่จำหน่ายในอเมริกาและยายออกไปทั่วโลก เกิดการสร้างรายได้ (โดยการจำหน่ายในระบบขายตรงหลายชั้น) 40,000 ล้านบาทในเวลา 2 ปี ทำให้เกิดการแข่งขันในการผลิตและจำหน่ายอย่างกว้างขวาง แต่ทว่าผลิตภัณฑ์น้ำมังคุดเหล่านี้ล้วนมีสีน้ำตาลเข้มเพราะใช้เปลือกมังคุด ผสม
ในเชิงวิทยาศาสตร์การผลิตลักษณะนี้เป็นการผลิตที่ง่าย เกินไปและไม่เป็นวิทยาศาสตร์ เพราะเปลือกมังคุดไม่ใช่ของบริโภคแต่ทิ้งเป็นขยะ จะใช้ต้มดื่มบ้างก็ต่อเมื่อใช้แก้อาการท้องเดินนานๆครั้ง คนไทยตั้งแต่สมัยโบราณอาจจะมีประสบการณ์จนเกิดเป็นความรู้ว่าไม่ควรบริโภค เปลือกมังคุดเพราะก่อให้เกิดโทษได้ ความจริงทางวิทยาศาสตร์ก็เป็นเช่นนั้น เพราะ ในเปลือกมังคุดมีสารแทนนินอยู่ในปริมาณมาก หากบริโภคมากเกินไปจะทำให้ท้องผูกและเป็นพิษต่อตับ มีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและลดการดูดซึมอาหารผ่านกระเพาะ อีกทั้งมีผลงานวิจัยระบุว่า แทนนินเป็นต้นเหตุของการเกิดมะเร็งในร่องแก้มและทางเดินอาหารได้ด้วย นอกจากนี้เปลือกมังคุดยังอาจปนเปื้อนยาฆ่าแมลงที่ใช้ในการพ่นผลมังคุดใน ระหว่างการปลูกอีกด้วย
คณะนักวิจัยมังคุดของไทยได้เฝ้าติดตามกรณีของน้ำมังคุด ที่จำหน่ายอยู่ด้วยความเป็นห่วงว่า สักวันหนึ่งอาจมีผู้บริโภคน้ำมังคุดที่มีส่วนผสมของเปลือกมากเกินไปจนเกิด อาการไม่พึงประสงค์ได้ ประกอบทั้งมีข่าวเล่ากันว่ามีผู้บริโภคแล้วคันตามตัวบ้าง ท้องผูกบ้าง ท้องเดินบ้าง ดังนั้นในฐานะที่เป็นผู้จุดประกายเกี่ยวกับประโยชน์ของมังคุดจนเกิด ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ขึ้น คณะนักวิจัยจึงเริ่มตระหนักถึงหน้าที่ที่จะต้องให้ความรู้แก่ผู้บริโภคให้ พึงระวังถึงผลข้างเคียงอันอาจจะเกิดขึ้น และในขณะเดียวกันก็ควรที่จะต้องเป็นผู้ให้คำแนะนำว่า ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในลักษณะที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และไร้ผลข้างเคียง ควรจะเป็นเช่นไร

และในปี 2007 เมื่อราคามังคุดตกต่ำลงจนเกือบไม่คุ้มที่จะเก็บผลจากต้น สร้างความทุกข์ให้แก่ชาวสวนที่เฝ้าฟูมฟักรักษาผลมังคุดมาตลอดปีด้วยกำลังกาย และกำลังทรัพย์ คณะนักวิจัยจึงเห็นว่า ถึงเวลาที่จะต้องนำความรู้ ผลงานวิจัย และประสบการณ์เกี่ยวกับมังคุดมาใช้ในการแก้ไขปัญหาชาวสวนพร้อมๆกับการสร้าง ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า มีความปลอดภัยมากกว่าการดื่มน้ำมังคุดผสมเปลือกหลายเท่าตัว

ด้วยเหตุนี้ OPERATION ?BIM? จึงเริ่มขึ้นอย่างจริงจังเป็นกระบวนการต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จในปัจจุบัน


ข่าวผลงานวิจัยมังคุดทางช่อง 7 สี
วันที่ 11 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.30 น.

จากการวิจัยเพิ่มเติมพบว่า การใช้สารจากมังคุดบริโภคเพื่อให้เกิดภูมิสมดุลในร่างกายจะต้องใช้ในปริมาณ มากจึงจะแสดงประสิทธิภาพ และเมื่อใช้ต่อเนื่องเพื่อเสริมสุขภาพในระยะยาวอาจเกิดการสะสมมากจนกระทบต่อ ระบบประสาทส่วนกลาง (central nervous system) ได้
คณะนักวิจัยจึงได้ใช้ศาสตร์ของการเสริมฤทธิ์ โดยนำสารธรรมชาติสุดยอดจากผลไม้และธัญพืชหลากชนิดผสมกับสาร GM-1 จนได้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติสูตรพิเศษ BIM หลังจากการทดสอบจนแน่ใจว่ามีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และไร้ผลข้างเคียงแล้ว จึงจดทะเบียนกับสำนักงานอาหารและยาเป็นแคปซูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร้อมทั้งได้จดสิทธิบัตรสูตรไว้ด้วย
ในขณะเดียวกันคณะนักวิจัยได้ใช้ความรู้จากปริมาณสารที่มีอยู่ในแคปซูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นหลักในการผลิตน้ำมังคุดสกัดเข้มข้นที่ ใช้แล้วได้ผลเช่นเดียวกัน โดยที่ไม่มีการเติมสีสังเคราะห์ ไม่เติมน้ำตาล ไม่มีสารกันบูด ไม่แต่งกลิ่นด้วยสารเคมี ไม่มีส่วนเปลือกซึ่งอาจปนเปื้อนยาฆ่าแมลง ไม่มีแทนนินสีน้ำตาลจากเปลือกในปริมาณมากจนเกิดผลข้างเคียง แต่สามารถช่วยปรับระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สมดุล เช่นเดียวกับ ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติสูตรพิเศษ BIM และได้ทำการจดสิทธิบัตรกระบวนการผลิตไว้เมื่อกลางปี 2551 นี้
เพียงในระยะเวลา 1 ปีที่มีผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติสูตรพิเศษ BIM โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นแคปซูลเสริมอาหาร ผลที่ได้รับจากการใช้ของผู้บริโภคได้สร้างความพึงพอใจให้แก่ทั้งผู้บริโภค และคณะนักวิจัยอย่างมาก ประสิทธิภาพเอนกอนันต์ที่ได้รับรายงานจากผู้บริโภค และผลที่ได้จากการทดสอบตามหลักวิทยาศาสตร์สากลในห้องปฏิบัติการและในอาสา สมัคร ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า OPERATION ?BIM? จะเป็นปรากฏการณ์สร้างประโยชน์แก่ประชากรทั่วโลกอย่างสูงยิ่ง และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยโดยถ้วนหน้า ที่นักวิทยาศาสคร์ของไทยสามารถรวมพลังสติปัญญา ความรู้และประสบการณ์ในการคิด ?นอกกรอบ? พัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครในโลกแห่งวิทยาการ...
[อ่านต่อ...]


Testimonials of consumers who used products from Operation BIM
ปัญหากระเัพาะ / Peptic Ulcer
ลำไส้ติดเชื้อ / Intestinal infection
ข้ออักเสบรูมาตอยส์ / Rheumatoid arthritis
ลูกสะบ้าหัวเข่าเสื่อม / Deteriorated kneecap
สะเก็ดเงิน / Psoriasis
เบาหวาน / Diabetes
ตับเสื่อม / Liver failure
อาการสันนิบาต / Parkinson's disease
HIV Infection
มะเร็งผิวหนัง / Skin cancer
มะเร็งระยะสุดท้าย / Last stage cancer
มะเร็งระยะสุดท้าย / Last stage cancer
ติดเชื้อราและแบคทีเรีย / Heals skin diseases & rashes. (Anti Fungal & Anti Bacterial)
ติดเชื้อเรื้อรังที่ใบหน้า (สิวอักเสบ) / Face chronic infection